จากกรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
โพสต์ข้อความ เสนอทางออกแก้ปัญหาบ่อนเสรีให้หายคาใจ โดยให้สังคมพิสูจน์ว่า ถึงเวลาที่เราจะยอมรับความจริงกันได้แล้วหรือยัง ถ้าไม่กล้าเปิดหน้ากันตรงๆ ชัดๆ กลัวคนจะด่า ก็ลองให้สังคมพิสูจน์ โดยให้มีกาสิโนสัก 1 หรือ 2 แห่ง ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยาหรือหาดใหญ่ กำหนดมาตรการต่างๆ ให้รอบคอบรัดกุมในทุกด้านตามที่เป็นข้อกล่าวหา ปิดประตูให้หมดแล้วทดลองทำดู ถ้าทำได้แล้วดีก็ทำกันต่อไป ถ้าทำแล้วไม่ดี มีปัญหาทางสังคมมากมายก็เลิก จะได้จบสิ้นกันเสียทีกับบ่อนเสรี ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็เป็นปัญหาคาใจ คาบ่อนกันอย่างนี้ตลอดไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ถูกยกขึ้นมา นักธุรกิจในเมืองพัทยาต่างให้ความคิดเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่
นายสินไชย วัฒนศาสตร์สาธร นักธุรกิจเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัจจุบันนี้สำหรับตนไม่เห็นด้วยที่จะให้เปิดบ่อน ระบบพื้นฐานของเมืองไทยล้มเหลวจึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ขึ้นในรอบที่ 2 เมืองไทยยังมีระบบการอุปถัมภ์ การส่งส่วยในระดับต่างๆ จนถึงระดับถึงนักการเมือง สิ่งเหล่านี้จึงยังไม่ควรนำประเทศที่จะนำธุรกิจสีเทามาทำให้ถูกต้องหรือกฎหมาย ซึ่งในอดีตประเทศไทยพยายามที่จะเอาธุรกิจสีเทา ขึ้นมาเป็นธุรกิจที่ถูกต้องเช่น หวยออนไลน์ ซึ่งประชาชนเฝ้าดูมานาน จนมันผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว เรื่องหวยออนไลน์ก็ยังไม่เกิดเป็นรูปประธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มันยังไม่มีการปฏิบัติได้จริง ฉะนั้นธุรกิจสีเทาแค่เรื่องเดียวเรายังทำกันไม่ได้เลย แล้วกำลังจะมาทำเรื่องของคาสิโนต่อเพราะความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างน้อยผมก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นว่าถ้าตั้งคาสิโนมาแล้วจะแก้ปัญหาบ่อนต่างๆได้ไหม ถ้าหวยออนไลน์ แก้ไขปัญหาหวยใต้ดินได้จริง แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง กับสิ่งที่บอกว่ามันอยู่ใต้ดินได้แค่เรื่องนั้นเรื่องเดียว ถ้าสมารถทำได้ก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รัฐจะทำอะไรต่อไป จะเอาสิ่งใต้ดินขึ้นมาบนดินมันก็จะง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นควรต้องมองภาพรวมก่อน ไม่ใช่พอเกิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็จะยกเรื่องนั้นขึ้นมาสู่บนดินมันเป็นเรื่องงาน แต่ระบบโดยรวมของประเทศยังแก้ระบบปราบปรามการส่งส่วย เรื่องของสินบนในเรื่องของคอรัปชั่นต่างๆ อันนี้มันคือพื้นฐานที่ทำให้ธุรกิจพวกนี้เกิดขึ้นยาก สำหรับคนเล่นบ่อนผ้าถุง 20 บาท 100 บาท 1000 บาท จะเข้าไปเล่นคาสิโนได้ไหม ถ้าไม่ให้คนเหล่านนี้เล่น นิสัยคนเล่นก็พยายามวิ่งเล่นกันอยู่ดี
นายสินไชย กล่าวต่ออีกว่า ถ้าจะเปิดบ่อนเสรีควรที่จะไปเปิดในพื้นที่ที่ขาดความเจริญ เพื่อเป็นการสร้างการกระจายรายได้ให้กับประชาชน ดึงการเจริญไปให้ ทำให้รายได้กระจายไปทั่วถึงตนก็ยังมองว่ายังไม่ควรจะมีการเปิดบ่อนในพื้นที่พัทยา
นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า รูปลักษณ์ของคาสิโนในมันเปลี่ยนไป คำว่าบ่อนคาสิโนมันมีความรู้สึกต่างกัน ในปัจจุบันอย่างมันเหมือนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสามารถรวมได้ทั้งคนที่มีความสนใจจะเข้าไปเล่นคาสิโนรวมถึงกลุ่มครอบครัวด้วย อย่างเช่นที่มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย ซึ่งประเทศรอบข้างเราก็เริ่มมีคาสิโนกันหมดแล้ว คาสิโนก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่จะดึงนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังประเทศต่างๆ คาสิโนในมันปรับภาพลักษณ์ไปเยอะรวมถึงประเทศต่างๆอย่างสิงคโปร์ในอดีตอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับประเทศของเขา แต่พอถึงช่วงเวลานึงสิงค์โปรมองว่าเหมาะที่มีมีคาสิโนซึ่งทำออกมาก็ประสบความสำเร็จ ก็คงจะมองว่าประเทศไทยถึงเวลาหรือยังที่จะดึงคำว่าบ่อนที่ผิดกฎหมายขึ้นมาให้ทำเป็นคาสิโนที่ถูกกฎหมาย ก็ตอบรับกับของท่าน สว วันชัย ถ้ามีปัญหาเราก็แก้กันไป ตนก็มั่นใจว่าทางภาครัฐเองได้ศึกษามาระดับหนึ่งแล้ว มองเห็นทั้งข้อดีข้อเสียส่วนข้อเสียถ้าภาครัฐสามารถที่จะปรับแก้หรือลดช่องต่างๆ เพื่อป้องกันให้เกิดข้อเสียที่จะเกิดขึ้นได้ ก็อยากให้ภาครัฐได้ลองนำกลับมาพิจารณา
พัทยาก็เหมาะสมเป็นเมืองหนึ่งที่เป็น entertainment และในเรื่องของห้องพัก ก็ค่อนข้างตอบรับตอบโจทย์ของคาสิโน แล้วก็มีโรงแรมใหญ่หลายโรง หรือจะสร้างใหม่ พื้นที่พัทยาก็ยังเหมาะสม หรือจะสร้างเป็นพื้นที่พิเศษมีระบบการปกครองพิเศษหรือเงื่อนไขต่างๆที่มันจะตอบรับกับคาสิโน เมืองพัทยาก็ตอบรับเงื่อนไขต่างๆได้ไว ส่วนเรื่องผลประโยชน์หลัก น่าจะเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ของประเทศ ถ้าเกิดในพื้นที่เมืองพัทยา ก็จะทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น เกิดการจ้างงานมากขึ้น ถ้ามองถึงในอนาคตการมีคาสิโนในพื้นที่เมืองพัทยาก็จะเหมือนเป็นการสร้างจุดขายใหม่ๆให้กับพื้นที่ภาคตะวันออก ถ้าจะสร้างคาสิโนทางภาครัฐก็ต้องประชาพิจารณ์ หรือมาศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่ ฟังเสียงคนในพื้นที่ว่ามีการตอบรับมากน้อยขนาดไหน